การตรวจพบรอยโรคบนผิวหนังในแมวอาจทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงกังวลได้ รอยโรคเหล่านี้อาจแสดงออกมาในรูปของตุ่ม แผล หรือบริเวณที่อักเสบ มักบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ การทำความเข้าใจสาเหตุทั่วไปของรอยโรคบนผิวหนังถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนแมวของคุณได้รับการดูแลที่เหมาะสมและทันท่วงที ซึ่งจะทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขและมีสุขภาพดีขึ้น
🐾อาการแพ้: ตัวการที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
อาการแพ้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมากของปัญหาผิวหนังในแมว อาการแพ้สามารถทำให้เกิดอาการคันและอักเสบอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดรอยโรคบนผิวหนังหลายประเภท
🐾โรคผิวหนังอักเสบจากการแพ้หมัด
โรคผิวหนังอักเสบจากการแพ้หมัด (Flea allergy dermatitis หรือ FAD) อาจเป็นอาการแพ้ที่พบบ่อยที่สุดในแมว เกิดจากอาการแพ้น้ำลายหมัด
- แม้แต่การกัดของหมัดเพียงครั้งเดียวก็สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้รุนแรงในแมวที่มีความไวได้
- อาการได้แก่ อาการคันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง ขาหลัง และท้อง
- อาการคันอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อตนเอง ส่งผลให้เกิดรอยโรค ผมร่วง และการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
- การควบคุมหมัดอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการจัดการ FAD
🐾อาการแพ้อาหาร
อาการแพ้อาหารอาจแสดงอาการออกมาในรูปแบบของปัญหาผิวหนังได้ แมวอาจแพ้ส่วนผสมต่างๆ ในอาหาร โดยส่วนใหญ่มักเป็นโปรตีน เช่น เนื้อวัว ไก่ หรือปลา
- อาการอาจรวมถึงอาการคันใบหน้า รอยโรคบริเวณรอบศีรษะและคอ และอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร
- การวินิจฉัยอาการแพ้อาหารมักจะเกี่ยวข้องกับการทดลองการหลีกเลี่ยงอาหาร โดยให้แมวได้รับอาหารโปรตีนชนิดใหม่เป็นเวลาหลายสัปดาห์
- หากอาการดีขึ้นในระหว่างการทดลอง แมวจะถูกทดสอบด้วยอาหารเดิมเพื่อยืนยันอาการแพ้
🐾อาการแพ้สิ่งแวดล้อม (Atopy)
อาการแพ้สิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า โรคภูมิแพ้ เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ในบริเวณโดยรอบของแมว เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น และเชื้อรา
- อาการแพ้จะคล้ายอาการแพ้ชนิดอื่น คือ คัน เกา และมีรอยโรคบนผิวหนัง
- โรคภูมิแพ้มักเกิดขึ้นตามฤดูกาล โดยอาการจะแย่ลงในบางช่วงของปี
- การจัดการอาจเกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ การใช้ยาเพื่อควบคุมอาการคัน และภูมิคุ้มกันบำบัด (ฉีดภูมิแพ้)
🐾การติดเชื้อ: แบคทีเรียและเชื้อรา
การติดเชื้อทั้งแบคทีเรียและเชื้อราเป็นอีกสาเหตุสำคัญของรอยโรคบนผิวหนัง การติดเชื้อเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเป็นปัญหาหลักหรือเป็นผลจากโรคอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้
🐾การติดเชื้อแบคทีเรีย (Pyoderma)
การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังหรือที่เรียกว่า pyoderma มักเป็นผลจากการบาดเจ็บที่ผิวหนังซึ่งเกิดจากอาการคัน แบคทีเรียซึ่งมักเป็นสายพันธุ์ Staphylococcus จะอาศัยอยู่ในผิวหนังที่เสียหาย
- อาการที่พบได้แก่ ตุ่มหนอง สะเก็ด และรอยแดง
- โดยทั่วไปการรักษาจะเกี่ยวข้องกับยาปฏิชีวนะ ทั้งแบบทาหรือแบบทั่วร่างกาย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ
- การแก้ไขที่ต้นเหตุของอาการคันก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
🐾การติดเชื้อรา (โรคผิวหนัง)
โรคผิวหนังอักเสบหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคกลาก เป็นโรคติดเชื้อราที่ส่งผลต่อผิวหนัง ผม และเล็บ เกิดจากเชื้อราหลายสายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่มักเป็น Microsporum canis
- รอยโรคกลากมักมีลักษณะเป็นวงกลม มีลักษณะเด่นคือ ผมร่วง เป็นขุย และเป็นสะเก็ด
- มันติดต่อได้ง่ายมากและสามารถแพร่สู่สัตว์อื่นและมนุษย์ได้
- การวินิจฉัยเกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงเชื้อราหรือการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ของตัวอย่างเส้นผม
- การรักษารวมถึงการใช้ยาต้านเชื้อรา ทั้งแบบใช้ภายนอกและรับประทาน รวมไปถึงการฆ่าเชื้อในสิ่งแวดล้อม
🐾ปรสิต: สารระคายเคืองภายนอก
ปรสิตภายนอกสามารถทำให้แมวเกิดการระคายเคืองผิวหนังและรอยโรคได้ ปรสิตเหล่านี้ดูดเลือดหรือกินผิวหนังของแมว ทำให้เกิดอาการคัน อักเสบ และติดเชื้อแทรกซ้อน
🐾หมัด
นอกจากจะทำให้เกิดอาการแพ้แล้ว หมัดยังสามารถระคายเคืองผิวหนังโดยตรงผ่านการกัดของมัน การกัดอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดอาการคันและเกา
- มักพบหมัดหรือสิ่งสกปรกหมัด (อุจจาระหมัด) บนขนของแมว
- การควบคุมหมัดอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการป้องกันและรักษาการระบาดของหมัด
- มีผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดให้เลือกหลายประเภท รวมถึงยาทาภายนอก ยารับประทาน และปลอกคอกำจัดหมัด
🐾ไร
ไรหลายประเภทสามารถรบกวนแมวจนทำให้เกิดปัญหาผิวหนังต่างๆ ได้
- ไรในหู (Otodectes cynotis):ไรเหล่านี้อาศัยอยู่ในช่องหูและทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องส่ายหัวและเกาหู มักมีของเหลวสีดำคล้ายกากกาแฟไหลออกมาจากหู
- โรคไรขี้เรื้อน (Notoedres cati):ไรชนิดนี้ติดต่อได้ง่าย ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ คอ และหู ผิวหนังจะหนาขึ้น เป็นสะเก็ด และมีริ้วรอย
- ไรขี้เรื้อน (Cheyletiellosis)เป็นโรคที่อาศัยอยู่บนผิวหนังและทำให้เกิดการลอกและคัน มักมองเห็นเป็นจุดสีขาวเล็กๆ เคลื่อนไหวได้บนขน
การวินิจฉัยการระบาดของไรต้องใช้การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์บริเวณผิวหนังที่ขูดออก การรักษาโดยทั่วไปจะรวมถึงการใช้ยาฆ่าไร
🐾โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
โรคภูมิต้านทานตนเองเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีเนื้อเยื่อของตัวเอง โรคภูมิต้านทานตนเองหลายชนิดสามารถส่งผลต่อผิวหนังของแมว ทำให้เกิดรอยโรคหลายประเภท
🐾เพมฟิกัส โฟลิเอเซียส
เพมฟิกัส โฟลิเอเซียส (Pemphigus foliaceus) เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่พบได้บ่อยที่สุดในแมว มีลักษณะเด่นคือมีตุ่มหนอง สะเก็ด และสะเก็ด มักเกิดขึ้นที่ใบหน้า หู และอุ้งเท้า
- ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเซลล์ที่ยึดผิวหนังเข้าด้วยกัน ส่งผลให้เกิดการเกิดตุ่มพองและตุ่มหนอง
- การวินิจฉัยเกี่ยวข้องกับการตรวจชิ้นเนื้อผิวหนัง
- โดยทั่วไปการรักษาจะเกี่ยวข้องกับการใช้ยาที่กดภูมิคุ้มกัน เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์
🐾โรคแพ้ภูมิตัวเองชนิดซิสเต็มิก ลูปัส เอริทีมาโทซัส (SLE)
โรค SLE เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันทำลายตนเองแบบทั่วไป ซึ่งสามารถส่งผลต่อระบบอวัยวะหลายระบบ รวมถึงผิวหนัง รอยโรคบนผิวหนังอาจรวมถึงแผล สะเก็ด และผมร่วง
- การวินิจฉัยโรคประกอบไปด้วยการตรวจเลือดและการตรวจชิ้นเนื้อผิวหนัง
- การรักษามีความซับซ้อนและมักเกี่ยวข้องกับยาที่กดภูมิคุ้มกัน
🐾เนื้องอก (เนื้องอกบนผิวหนัง)
เนื้องอกผิวหนังหรือเนื้องอกอาจเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงหรือร้ายแรงกว่านั้นก็ได้ อาจมีลักษณะเป็นตุ่ม ก้อน หรือแผลบนผิวหนัง
🐾เนื้องอกเซลล์ฐาน
เนื้องอกเซลล์ฐานเป็นเนื้องอกผิวหนังที่ไม่ร้ายแรงที่พบได้บ่อยในแมว มักมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเล็กๆ นูนขึ้นและไม่มีขน
- การผ่าตัดเอาออกมักจะสามารถรักษาให้หายได้
🐾มะเร็งเซลล์สความัส
มะเร็งเซลล์สความัสเป็นเนื้องอกผิวหนังที่ร้ายแรงซึ่งมักสัมพันธ์กับการสัมผัสแสงแดด มักเกิดขึ้นที่หู จมูก และเปลือกตา
- รอยโรคอาจปรากฏเป็นแผลเรื้อรัง สะเก็ด หรือก้อนเนื้อที่นูนขึ้นมา
- ทางเลือกการรักษาได้แก่ การผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก การฉายรังสี และเคมีบำบัด
🐾เนื้องอกเซลล์มาสต์
เนื้องอกเซลล์มาสต์อาจเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงหรือร้ายแรงกว่านั้นก็ได้ โดยอาจปรากฏเป็นก้อนเนื้อเดียวหรือหลายก้อนบนผิวหนัง
- การวินิจฉัยใช้วิธีดูดด้วยเข็มขนาดเล็กหรือการตรวจชิ้นเนื้อ
- ทางเลือกการรักษาได้แก่ การผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก การฉายรังสี และเคมีบำบัด
🐾สาเหตุอื่นๆ
มีปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการที่อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังในแมวได้
🐾ผมร่วงจากจิตใจ
โรคผมร่วงจากจิตใจเป็นภาวะทางพฤติกรรมที่แมวจะเลียขนตัวเองมากเกินไปเนื่องจากความเครียดหรือความวิตกกังวล ส่งผลให้ขนร่วงและระคายเคืองผิวหนัง
- โดยทั่วไปอาการผมร่วงจะเกิดขึ้นแบบสมมาตรและเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าท้อง ข้างลำตัว และต้นขาส่วนใน
- การบำบัดเกี่ยวข้องกับการแก้ไขสาเหตุเบื้องต้นของความเครียดหรือความวิตกกังวล รวมถึงการเสริมสภาพแวดล้อมด้วย
🐾ปฏิกิริยาต่อยา
อาการไม่พึงประสงค์จากยาบางครั้งอาจปรากฏออกมาเป็นรอยโรคบนผิวหนัง ซึ่งอาจมีตั้งแต่ผื่นเล็กน้อยไปจนถึงพุพองรุนแรง
- หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณมีอาการแพ้ยา ให้ติดต่อสัตวแพทย์ทันที
🐾การขาดสารอาหาร
แม้ว่าอาหารแมวสำเร็จรูปจะพบได้น้อยกว่า แต่การขาดสารอาหารบางอย่างอาจนำไปสู่ปัญหาผิวหนังได้ การขาดกรดไขมันจำเป็น วิตามิน หรือแร่ธาตุอาจส่งผลต่อสุขภาพผิวและการทำงานของเกราะป้องกัน
- การรับประทานอาหารที่สมดุลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพผิวหนังและขน